วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557

ฟุตบอล : คาร์ราเกอร์ แย้งมินโญเล่ต์อีกทั้งกระจอกพอกับพวกหงส์แดง

ครั้นเมื่อทางไม่อายคาร์ราเกอร์ ติงว่ามินโญเล่ต์ยังไม่ดีพอกับเหล่าหงส์




จะลองมาเซฟเองมั้ยครับ? ภายหลังที่คาร์ร่า วิเคราะห์ผลบอล ว่ามินโญเล่ต์ นั้นยังไม่ทำผลงานได้เยี่ยมพอในทัพ กรุ๊ปหงส์แดง หลังไม่เชี่ยวชาญเซฟลูกยิงสุดสวยของ จากีลก้า ได้ พร้อมชี้ว่านายทวารก็เป็นส่วนที่ทำให้กรุ๊ปประสบความสำเร็จ

โดยที่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตปราการหลังของ ฝ่ายลิเวอร์พูล ยักข์ใหญ่แห่งศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกโรงวิจารณ์ ซิมง มินโญเล่ต์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของคณะ ว่ายังทำผลงานได้ไม่ดีพอที่จะทำให้สโมสรประสบความสำเร็จ หลังเจ้าตัวไม่เป็นได้เซฟลูกยิงผีจับยัดของ ฟิล จากีลก้า เซ็นเตอร์แบ็กของ เอฟเวอร์ตัน เอาไว้ได้ ในเกมทันทีที่สุดอาทิตย์ที่เสมอกันไป 1 - 1 วันเสาร์ที่ 27 กันยายน ที่ข้ามมา

หลังจากที่อดีตกองหลังที่แปรตัวไปเป็นนักวิเคราะห์เกมของ สื่อสกาย สปอร์ต ได้กล่าวว่า ผมคิดว่าโกล์ที่ดีที่สุดจักอาจจักพากลุ่มคว้าแชมป์ได้ นั่นเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ ลูกยิงของ จากีลก้า มันไม่ได้เป็นความผิดพลาดอย่างรุนแรง แต่เขาน่าจะทำได้ดีกว่านี้ไม่ใช่หรือเปล่า? ทุกๆ คนจะพูดกันถึงแต่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด พลาด และทำให้ ลิเวอร์พูล เสียแชมป์ลีก ซึ่งคุณไม่ควรมองถึงคนคนหนึ่งที่ทำหนึ่งความผิดพลาด แต่ เด็มบา บา ยังคงสร้างผ่านไปได้ คุณลองมองไปยังผู้รักษาประตู กับคิดว่า การจะชนะในลีก มันต้องมีเซฟสวยๆ เพื่อจักตัดสินฤดูกาลนี้

กับในเกมที่พบกับ กลุ่มแมนฯ ซิตี้ ที่เราพ่ายผลบอลไป 1-2 ซึ่งถ้าเขาอาจจะเซฟลูกยิงของ เนเกรโด้ ได้เราจักไม่เสีย 2 คะแนนด้วยกันได้ 1 แต้ม กลับมาด้วย ผมคิดว่า โจ ฮาร์ท หลังเกมที่พบกับ เชลซี คณะ แมนฯ ซิตี้ นั้นเจอเกมที่ยากกับ เอฟเวอร์ตัน ด้วยกันพวกเขาเอาชนะได้ 3-2 โจ ฮาร์ท เซฟลูกยิงของ เนย์สมิธ และทำให้พวกเขาเป็นแชมป์ เราทำได้พูดถึงลูกยิงที่ทำให้เป็นแชมป์ได้ เหรอนักเตะที่ทำให้เหล่าคว้าแชมป์ และสร้างช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ แต่ผู้รักษาประตูก็เป็นสิ่งที่ทำให้เรื่องราวต่างๆ เปลี่ยนไปได้เช่นกัน ด้วยการเซฟที่ยอดเยี่ยม

ซึ่งมาจนถึงระยะนี้ เขายังไม่ได้มีลูกเซฟสำคัญ ๆ ให้กับพวกได้เลย ถ้ามันเป็นแบบนี้ถัดไป ผมสามารถมองได้ว่า หมู่ลิเวอร์พูล จักมองหาผู้รักษาประตูคนใหม่แน่ มีการสังสนทนาถึง บิคตอร์ บัลเดส เพราะว่าเขาเป็นฟรีเอเย่นต์ แต่เขาก็ยังต้องพิสูจน์ คาร์ร่า ร่ายยาวเหยียด

ขอบคุณข่าวจาก >>> http://footballclubpza.blogspot.com/

วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2557

ข้อมูลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก : ฟานกัล ยอมรับรูนควรค่าโดนแดง


ฟานกัล รับรูนสมควรโดนแดง







เพราะในเกมส์ที่ลอดมาของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชอตที่ทำให้ รูนี่ย์ โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม!! ล่าสุดฟาน กัล ก็ได้เปิดเปิดเผยต่อสื่อว่า รูน สมควรที่จักโดนใบแดงแล้ว แต่ก็อดปลื้มไม่ได้ที่ลูกคณะ อาจจักยันเวสต์แฮมเอาไว้ได้ ด้วยสกอร์ 2-1

วิเคราะห์บอล : หลังจากจบเกมส์ขณะวันเสาร์ที่ผ่านมา หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการคณะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ออกมายอมรับว่าจังหวะที่ เวย์น รูนี่ย์ ศูนย์หน้ากัปตันคณะวิ่งไปเตะหัวเข่าของ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ปีกจาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในนาทีที่ 59 นั้นสมควรที่จะเป็นใบแดงแล้ว พร้อมชมลูกเหล่าที่อดทนจนสมรรถยันผลการแข่งขันเอาไว้ได้ ส่งผลให้พวกเขาเอาชนะไป 2-1 เก็บ 3 คะแนนไปได้อย่างหืดจับ เมื่อวันเสาร์ที่ 27 กันยายนที่ทะลุมา

ซึ่งกุนซือวัย 63 ปี ได้กล่าววิเคราะห์บอลอีกว่า ผมคิดว่าเราเล่นกันได้ดีมากๆ ในช่วงครึ่งเวลาแรก เกมบุกที่ยอดเยี่ยม เป็นฟุตบอลที่มีเสน่ห์ เราเสียประตูจากลูกเตะมุม ซึ่งน่าเสียดายเพราะเราเล่นกันได้ดี ผมเอื้อนในช่วงพักครึ่งว่าผมยินดีกับผลงานมาก ภายหลังเราเล่นลูกเซตเพลย์ แล้วถูก เวสต์แฮม โต้กลับ ซึ่งใบแดงของ เวย์น มันได้เปลี่ยนทุกๆ อย่างไป

ทั้งยังกล่าวต่ออีกว่า ผมคิดว่าผู้ตัดสินวิเคราะห์บอลว่าควรจักให้เป็นใบแดงอยู่แล้ว ผมคิดว่า รูนี่ย์ แล้วเพราะเล่นมุ่งร้ายเกินไป เพราะว่าว่าคุณทำได้ทำอย่างอื่นได้มากมายกว่าการเตะ ผมว่ามันไม่เป็นมืออาชีพเท่าไหร่ เรามีปัญหาที่ว่า เวสต์แฮม มีความสูงกว่าเรา พร้อมกับพวกเขาเล่นบอลโยนยาว มันเป็นเรื่องยากที่เราจะรักษาสกอร์ไว้ได้ ซึ่งผมดีใจมากๆ ที่เราทำมันได้ เทรนเนอร์ชาวดัชต์ ร่ายยาว

กับพร้อมกันนี้ทางด้าน ฟาน กัล ยังได้พูดถึงผู้เล่นดาวรุ่งที่เปิดตัวในวันนี้อย่าง แพทริก แม็คแนร์ โดยชื่นชมผลงานว่าเล่นได้อย่างดี ผมดีใจที่เราชนะ เพราะว่าว่ามันสำคัญมากเพราะด้วยนักเตะที่เพิ่งโหมโรงเกมนี้ กับผมคิดว่าเขาเล่นได้ดี ผมพอใจกับผลงานของเขามากๆ

กับนอกจากนี้ ภายหลังที่พวก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เฉียดชนะคณะ เวสต์แฮมมา ทำให้เก็บแต้มได้ 3 คะแนนได้ ส่งผลให้ตำแหน่งเลื่อนไปอยู่อันดับที่ 7 ซึ่งตามหลังจ่าฝูงอย่าง คณะเชลซี อยู่ 8 แต้ม  


ด้วยกันอาทิตย์หน้าคะแนนในตารางจะเปลี่ยนแปลงมากน้อยพ่างใด อาจจักรับชมความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ที่ >>> http://footballclubpza.blogspot.com/


โปรแกรมบอล : นี่หมายความว่าเหตุบรรลุผลแบบอย่าง ของ ซิโก้ สไตล์

ความสำเร็จรูปแบบ “ซิโก้ สไตล์”





หลังจากที่เราได้วิเคราะห์บอลสัมผัส และ รู้จักกับตัวตน ของ ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ผมไม่แปลกใจเลยที่พวกชาติไทยอาจทะลุเข้ารอบตัดเชือก เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ได้สำเร็จ


คลิปความสำเร็จของพวกชาติไทย ในนัดที่ไทย VS พม่า



ด้วยกันถึงแม้ว่าในครั้งนี้ จะเป็นแค่ครั้งที่ 4 ในเรื่องราวศาสตร์เท่านั้นที่ทัพนักเตะไทยทำผลงานเข้าสู่รอบ 4 พวกสุดท้ายได้

ลองมาทบทวนโปรแกรมบอลกันอีกที: 

  • ครั้งที่ 1 ปี 1990 คาร์ลอส โรแบร์โต้ คาร์วัลโญ่
  • ครั้งที่ 2 ปี 1990 ไทย
  • ครั้งที่ 3 ปี 1998 ไทย  
  • ครั้งที่ 4 ปี 2002 เกาหลีใต้ เพราะมี ปีเตอร์ วิธ เป็นโค็ช


ซึ่งเป็นกุนซือ ที่เราทำฟอร์มได้เท่านี้ ลองมาวิเคราะห์ผลบอล กันดูสักหน่อย

แต่ว่าที่น่าสนใจก็คือ ซิโก้ ได้กลายเป็นบุคคลที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จปี 1998 พร้อมกับ 2002 ในฐานะผู้เล่น พร้อมกับโค้ชครั้งนี้ ใช่ไหมก็คือ 3 จาก 4 ครั้งที่เราเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเอเชียนเกมส์



นี่คือภาพ ช่วงหนึ่งของชีวิตในลีกผู้ดีกับ ทีมฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์
เพราะว่าชื่อของ ซิโก้ หรือว่าที่ผมเรียกว่า “โก้” ติดมาตั้งแต่ตอนเจ้าตัวไปเป็นนักฟุตบอลอาชีพให้ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ปี 1999 กับตอนนั้นผมเป็นผู้สื่อข่าวอยู่อังกฤษ จึงมี “ประสบการณ์” ด้วยกันรู้ว่าควรจักโค้ชอย่างไร? ณ สถานการณ์นี้ แบบครบถ้วน

ซึ่งครั้นนำมาเสริมกับ “บุคลิก” พร้อมทั้งคาแร็กเตอร์ส่วนตัวที่มีพื้นฐานเยี่ยมด้าน “ระเบียบวินัย” ทั้งใน และนอกสนาม บวกกับ “พรสวรรค์” ที่แม้ไม่ได้สูงเฉียดพี่ตุ๊ก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน

แต่เป็นก็เพราะว่า คำว่า “วินัย” นี่แหละครับที่เป็น “จุดแข็ง” กับคอยเสริมทักษะ กับพรสวรรค์ จนทำให้ “โก้” กลายเป็น 1 ในสุดยอดศูนย์หน้าที่ดีที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยผลิตมา

ในตอนคราวผมเด็ก ๆ ใช่ไหม 30 ปีบวก ๆ ตัวเองเคยได้ยินแต่ชื่อ “น้าเจษ” เจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง แต่ไม่ทันได้ดูการเล่นว่า คุณอาเจษฎาภรณ์ เป็นศูนย์หน้าที่ “เก่งกาจ” เหมือนใด

แต่พอเติบโตมาก็มี “พี่ตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน และก็ ซิโก้ ก่อนจะถึงยุคนี้ที่มี ธีรศิลป์ แดงดา


ในกาลสมัยนั้นได้เข้ารอบรอง ฯ เอเชียนเกมส์ ปี 1988
เพราะว่าเหตุนี้เชื่อแน่ครับว่าในด้าน บารมี และในฐานะหัวหอกในตำนานมีผลต่อการเป็นโค้ช กับปางบวกบุคลิก พร้อมกับคาแร็กเตอร์ น่านับถือทั้งการ “วางตัว” ผ่านการพูดจาด้วยมิติ “ความคิด” ดีๆ

พร้อมกับไม่ว่าจะเป็นในด้านการบริหารจัดการยอดเยี่ยมนับจากพาคณะได้แชมป์ซีเกมส์ ที่ทะลุมาที่เมียนมาร์ ด้วยการจัดให้นักเตะได้รวมตัว “อุ่นเครื่อง” ทุกเดือนอย่างต่อเนื่อง

ด้วยกันยังหลีกเลี่ยงการปะทะกับสโมสรต้นสังกัด ชนิด “รอมชอม” เข้าใจวัฒนธรรมบอลไทย พร้อมด้วยรู้จักตัวผู้เล่นแบบโค้ชต่างชาติไม่มี

เพราะที่ความสำเร็จนั้นจึง ได้เกิดขึ้นแบบ ที่ มีที่มาที่ไป พร้อมทั้งไม่ใช่ความ บังเอิญแน่นอน

เพราะว่าที่หมู่ชุดนี้มี 11 คนแรก โดยการปะทะกับ เหล่าจอร์แดน ซึ่งเราลอดได้ด้วยผลบอล 2-0 ก่อนไปเจอเจ้าภาพ เกาหลีใต้ วันอังคารที่ 30 กันยายน

บัญชีชื่อชุดนี้ประกอบไปด้วย

1. ประตู

  • กวินทร์


2. กองหลัง

  • พีรพัฒน์
  • ธนบูรณ์
  • อดิศร
  • นฤบดินทร์


3.กองกลาง

  • เกริกฤทธิ์
  • สารัช
  • ชาริล
  • ชนาธิป
  • นูรูล


4.กองหน้า

  • อดิศักดิ์


ด้วยเหตุนี้จึงได้ “ฉายภาพ” การเป็นกุนซือของพวกเค้าออกมาได้ชัดเจนที่สุด

พร้อมกับอีกอย่างครับครับ นักเตะไทยเล่นแบบ “มีวินัย” แต่แอบแฝงด้วย “พรสวรรค์” เล็ก ๆ น้อย ๆ แทรกในแต่ละตำแหน่งกับระบบ 4-5-1 ที่สลับเป็นรุก 4-3-3 ได้แบบพอเหมาะพอเจาะ

พร้อมทั้งจากจุดเริ่มต้นของศึก แชมป์ซีเกมส์
เป็นเวลานานแค่ไหนแล้วนะ?

  1. ที่เราไม่ได้เห็นกลุ่มชาติไทยควบดูแลอารมณ์ 
  2. คอนโทรลสถานการณ์ได้แบบทัวร์นาเมนท์นี้
  3. เล่นแบบเป็นตัวของตัวเอง 
  4. มีความสุข


เพราะที่ตารางบอล ทุกสิ่ง ทั้งหมดที่มี คือ บุคลิกของกุนซือ กับเป็นนิสัยของชายที่ชื่อว่า ซิโก้ พร้อมกับตามที่ผมนิยามก็คือ ซิโก้ สไตล์

สิ่งสุดท้าย ก็จักมีคำถามตามมา คือ ความหวังเหรียญใดเหรียญหนึ่ง หรือไม่ก็เข้าชิงชนะเลิศ หรือไม่โอกาสเหรียญทองของฝ่ายชุดนี้เป็นไปได้หรือไม่ก็ไม่ ?

ในด้านของตัวผมมองว่า  นอกจากจักเล่นทุกนัดให้เหมือนนัดไฟนอล หรือว่านัดชิงชนะเลิศแบบที่ “โก้” ชี้มาตั้งแต่รอบ 16 คณะสุดท้ายแล้ว

ถ้าสมมติกลุ่มชาติไทย ยังเล่นรูปแบบ “ซิโก้ สไตล์” นี้ได้อีกใน 2 นัดที่เหลือ อะไรย่อมเกิดขึ้นได้ครับ ถ้าไม่โดนโ..ง คุณคงรู้กันนะครับ 555+ ^_^

ขอบคุณข้อมูลจาก >>> http://footballclubpza.blogspot.com/

เนื้อหาเพราะ Sanook.com



วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2557

วิเคราะห์บอล : ผมเผ้าทำที่ใดผิด(บาโลเตลลี่)



เป็นเรื่องแล้วไหมล่ะ!! เป็นไงล่ะ บาโลเตลลี่เอ๋ย เจ้ายังรู้จัก อารมณ์โกรธของแฟน บอลน้อยไปนะ !! 

วิเคราะห์บอล : คำว่า saynoracism หรือไม่การที่ไม่พูดจาด่าด้วยการเหยียดผิว เป็นสิ่งที่องค์กรลูกหนัง ฟุตบอลทั่วโลก พยายามรณรงค์ให้มันลดน้อยถอยไปหรือไม่ ก็ให้มันตายไปจากวงการฟุตบอลเลยได้ยิ่งดี แต่ผมเชื่อเลยว่ามันไม่มีทางหมดหรอก ถ้าจิตใจคน มันยังปราศจากสิ่งยั่วยุไม่ได้

ซึ่งนี่ก็ถือเป็นอีก 1 เหตุการณ์ ที่ผมไม่ประสงค์เชื่อว่าจักหลุดมาจากปลายนิ้วของ แฟนฟุตบอล กรุ๊ปเร้ด อาร์มี่ บางจำพวก ย้ำ นะครับว่า บางจำพวก ซึ่งเท่าแค่เพราะว่า มาริโอ บาโล เตลลี่ ที่เพิ่งสถาปนาตัวเองเป็น พวกลิเวอร์พูล ได้ไม่นาน โพสต์ 'ทวิตเตอร์' เชิง แซวไม่ใช่หรืออาจจะตกใจกับผลการแข่งขันที่ กรุ๊ปแมนฯ ยูไนเต็ด พลิกกลับมาพ่าย ทีมเลสเตอร์ 3 - 5

นี่คือตัวอย่างนะ จ๊ะ ไม่ได้เอามากล่าวหาลอยๆ แต่มันมีอยู่เป็นแน่แท้คน แบบนี้
เพราะผมเชื่อเลย ก่อนเกมที่เหล่าปีศาจแดง จักลงพบกับ ฝ่ายจิ้งจอกสยาม เหล่าสาวก หมู่เร้ด อาร์มี่ จำนวนไม่น้อย เล่นจัดการโพสต์ เฟซบุ๊ค ไม่ใช่หรือ ทวิสเตอร์ แซวเหรอเชิงเยาะเย้ยลิเวอร์พูล ที่ไปพ่ายต่อ กลุ่มเวสต์แฮม 1-3 ขณะวันเสาร์ กันอย่างสนุกมือ เพราะคงคิดว่า พรุ่งนี้ตูชนะแน่ !

เช่นแต่ว่าเหมือนฟ้าเล่นตลกกับ พวกแมนฯ ยูไนเต็ด นะครับ ก็เพราะว่าเสกให้พวกเขาพ่ายแพ้ต่อคู่แข่งเช่นกัน ทั้งๆที่ อัง เคล ดิ มาเรีย โชว์เทพด้วยการยิงชิบข้ามประตู แถมยังมีช็อตที่ ราดาเมล ฟัลเกา แอสซิสต์เข้าหัว โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แบบพอเหมาะพอเจาะ ออกนำไปก่อน 3 - 1 แต่ใครจักเชื่อว่า พวกเลสเตอร์ จะมารัว 4 ประตูรวด แซงชนะไป 3 - 5

พร้อม ทั้งนี่คือการพ่ายพ่ายแพ้ต่อเวสต์แฮมของหงส์แดง  อย่าสาธยายนะว่าแฟนผีไม่เคยเยาะเย้ย
ซึ่งเมื่อผลสกอร์ วิเคราะห์บอลจบแบบนั้น ไม่ใช่แฟนบอล คณะจิ้งจอกสยาม หมู่เดียวแล้วล่ะครับ ที่แฮปปี้ มีความสุข เพราะแฟนบอลเฉพาะกิจ อย่างกลุ่มลิเวอร์พูล ก็เรียกได้ว่าถึงกับยิ้มหน้าบาน ปากแทบฉีกไปถึงใบหู ประหนึ่งว่า ถึงตาที ตู จะเอาคืนพวกนายแล้ววว !

อาจจักเรียกได้ว่าอะไรที่ แฟนบอลกลุ่มแมนฯยู เคย โพสต์เยาะเย้ย กรุ๊ปหงส์แดง ตราบวันเสาร์ที่พ่ายแพ้ หมู่เวสต์แฮม เหล่าสาวก เดอะ ค็อป จัดเต็มยิ่งกว่า เปรียบดังสุภาษิต หัวเราะที่หลัง ดังกว่า

โดยที่ 1 ในนั้น ก็มี นักเตะของ ลิเวอร์พูล และเป็นอดีตแข้ง คู่อริร่วมเมืองของ กลุ่มแมนฯ ยูไนเต็ด อาจจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่ นั่นคือ ซูเปอร์ มาริโอ้ จัดการโพสต์ข้อความผ่าน ทวิตเตอร์ ส่วนตัว หลังเกมที่ พวกปีศาจแดง พ่ายต่อ กลุ่มจิ้งจอก สยาม ด้วยข้อความสั้นๆที่ว่า Man utd  LOL

สิ่งนี้ ผมสมรรถทำใจยอมรับการเกรียนได้ ถ้าไม่เกิด เหตุการณ์เหยียดผิว
วิเคราะห์บอลในความคิด เป็นนักเตะที่เป็นอริของพวกรักคุณ โพสต์แซวขนาดนี้ ในฐานะสาวกแฟนบอลของฝ่ายมันก็เป็น เรื่องธรรมดา ที่คุณจักต้องปกป้องหรือแขวะกลับไป เชิงคาดคะเนเห้ย คณะนายก็พ่ายแพ้มานะ

พ่างแต่ว่า สิ่งที่ผมไม่คาดคิดเลยว่าจักมีการแขวะกลับของแฟน บอลของ ฝ่ายปีศาจแดง บางจำพวก ไปยัง บาโลเตลลี่ ด้วยข้อความที่ เหยียดผิวแบบชัดเจน นั่นคือด่าว่า Monkey ตรงๆเลยคับว่าคือ ลิง ! ซึ่งในประเทศแถบยุโรป คำนี้ถือว่าผิดมหันต์

ซึ่งผมจักยกตัวอย่างข้อความของแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ทวีตไปหา บาโลเตลลี่ นะครับ

  • บาโลเตลลี่ นายมันก็แค่ลิงตัว นึง
  • จนกระทั่งวานคณะแก ก็แพ้ 1-3 นะ ไอลิง
นี่แค่เบาๆ นะ ฮ่ะ
และอีก 1 ข้อความ ถือว่ารุนแรงมากทีเดียวคือ นายมันเป็นตัวแพร่เชื้ออีโบล่า ไอ้ลิงสกปรก

ซึ่งผมไม่ได้ว่าแฟนบอล ทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งหมดนะครับ เพราะว่าแฟนฟุตบอลดีๆ มีเยอะทั่วโลก แต่ พฤติกรรมแฟนบอลเหล่านี้มันรับไม่ได้ครับ มันเหมือนเป็นพวกขี้พ่ายแพ้ชวนตี !

ผมถือว่ามันเป็นเรื่องที่เห็นแก่ตัวเหมือนกันนะ ที่คุณโพสต์ด่าคนอื่นได้ แต่ครั้นถึงตาคุณโดนบ้างกลับรับไม่ได้

ถ้าจักสรุปแล้ว บาโลเตลลี่ ผิดอะไรใช่ไหมครับ ผิดที่เค้าโพสต์ ข้อความวิเคราะห์บอล ไม่ใช่หรือผิดที่เค้า แซว ทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ถ้าต่างว่าคำตอบคือผิด ! แล้วทำไมต้องด่าทอกันด้วยข้อความที่มันเป็นการเหยียดผิด ผมว่ามันไม่ควรที่จะไปตอบโต้ด้วย ถ้อยคำรุนแรงอะไรทั้งสิ้น ที่จะก่อให้เกิดความบาดหมาง

เพราะว่าสุดท้ายแล้ว สิ่งที่แฟนบอลเหล่านั้นทำลงไป อาจจักเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ แต่เชื่อไหมผลกรรมนั้นมันจักย้อนตามมาเล่นงาน ดั่งเช่นทุกวันนี้ตำรวจแห่งเมอร์ซี่ย์ไซด์ เตรียมหา มือดีที่โพสต์ทวิตเตอร์เหยียดผิว บาโลเตลลี่ มาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว

พ่างแต่ว่าผมไม่ได้โลกสวย เพื่อมาตำหนิแฟนบอล กรุ๊ปปีศาจแดง บางจำพวกหรอกนะครับ เพราะสาวก หงส์แดง ที่ตัดผมขาว 3 ด้าน (เกรียน) ก็มีเหมือนกันแหละครับ ผมไม่ปิดประตูแน่นอน

แต่ ก็ปรารถนาให้บลัฟกันพอขำๆ เอาแบบหอมปากหอมคอ อย่าให้มันมีรุนแรงอะไรมากมาย !


ฟัน ธงได้เลย 100% ถ้าถ้าแซวกันแค่พอ หอมปากหปมคอ มัน ก็จะเป็นการบรรเทิงใจไปได้อีกอย่าง และยังทำให้เกมส์กีฬา ฟุตบอล ดูมีสีสันด้วย แต่ก็นั่นแหล่ะนะ ถ้าวันไหนไม่ได้แซวมันก็คงเหมือนกับขาดอะไรไปสักอย่าง ฮ่าๆ

เนื้อหาโดย http://footballclubpza.blogspot.com/

วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2557

โปรแกรมบอล : ดวลจุดโทษ สดสถิติใหม่สรรพสิ่งลีกคัพ !

ดวลจุดโทษ เป็นสถิติใหม่ของลีกคัพ ! 

ขณะเหล่าหงส์แดงดวลเป้าดับโบโร่ ผลบอล 14 - 13 + คลิป




ด้วยว่าหมู่ หงส์แดง คงจักเรียกได้ว่า หืดจับ ภายหลังที่เล่น 90 นาทีเสมอกับ กรุ๊ปเดอะ โบโร่ 1-1 ต่อเวลายิงเพิ่มหมู่ละลูกเสมอกัน 2-2 ก่อนที่จะดวลจุดโทษทั้งฝ่ายแล้วชนะไปด้วยสกอร์มโหราฬเป็นสถิติ 14-13 ในศึกแคปิตอล วัน คัพ อังกฤษ รอบ 3 เท่าที่ 23 กันยายน ที่ทะลวงมา

ข่าวฟุตบอล แคปิตอล วัน คัพ อังกฤษ รอบ 3 แข่งขันคืนวันอังคารที่ 23 กันยายน 2557 เป็นการพบกันระหว่างพวก หงส์แดง ลิเวอร์พูล ทีมขวัญใจแฟนๆ จาก ศึกโปรแกรมพรีเมียร์ลีก เปิดสนามแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ สิงห์แดง มิดเดิ้ลสโบรช์ กรุ๊ปในระดับแชมเปี้ยนชิพ

โดยขึ้นต้นเกมมาถึงนาทีที่ 10 กรุ๊ปลิเวอร์พูล ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1 - 0 จากการสื่อสารผิดพลาดของระหว่างกองหลังกับผู้รักษาประตูกลุ่มเยือน ริคกี้ แลมเบิร์ต ได้ยิงจังหวะแรกติดเซฟ ก่อนที่ จอร์แดน รอสซิเตอร์ กองกลางดาวรุ่งวัย 17 ปี จะแปสวนระยะร่วม 25 หลาเข้าประตูไป

นาทีที่ 25 เหล่าหงส์แดง ยังเป็นฝ่ายควบคุมเกมได้มากกว่า มีลุ้นหวาดเสียว เท่าที่ อดัม ลัลลาน่า ตั้งป้อมซัดไกลจากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งหลุดเสาออกไป

นาทีที่ 30 โอกาสลุ้นประตูของ มิดเดิ้ลสโบรช์ จากลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย แกรนท์ ลีดบิทเทอร์ เปิดเข้าเขตโทษให้ กิเก้ วอลเลย์ด้วยซ้าย บอลแฉลบแนวรับเจ้าถิ่นข้ามคาน

นาทีที่ 38 เดอะ โบโร่ มีโอกาสได้ประตูตีเสมอ ลี ทอมลิน ซัดไกลจากหน้าเขตโทษ มินโญเลต์ ต้องออกแรงปัดทิ้ง ก่อนที่ อัลเบิร์ต อโดมาห์ จะตวัดบอลหลุนเข้ากลางให้ อดัม คเลย์ตัน ได้โหม่ง แต่ข้ามคาน

พร้อมทั้งหมดครึ่งแรก หมู่ลิเวอร์พูล นำ หมู่มิดเดิ้ลสโบรช์ อยู่ 1 - 0

เริ่มทำเกมส์มาในครึ่งหลัง ก็ยังไม่มีเหล่าใดเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น เกริ่นมานาที 62 คณะเดอะ โบโร่ มาทวงประตูตีเสมอเป็น 1 - 1 แกรนท์ ลีดบิทเทอร์ เปิดฟรีคิกจากมุมเขตโทษฝั่งขวาเข้ากลางให้ อดัม รีช โหม่งเปลี่ยนทางเสียบมุมตาข่าย

นาทีที่ 67 มิดเดิ้ลสโบรช์ เกมเกริ่นดีขึ้นตามลำดับ มีโอกาสลุ้นจากจังหวะที่ อัลเบิร์ต อโดมาห์ เปิดจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าเขตโทษให้ อดัม รีช ได้โหม่งแต่หลุดเสาสอง

นาทีที่ 74 ลิเวอร์พูล แก้เกมด้วยการส่ง มาริโอ บาโลเตลลี่ ลงมาล่าตาข่ายแทน ริคกี้ แลมเบิร์ต

นาทีที่ 77 เหล่าเดอะ โบโร่ มีโอกาสลุ้นประตูอีกครั้ง ในจังหวะที่ อดัม คเลย์ตัน แต่งบอลยิงไกลด้วยขวา 25 หลาหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเกือบเสียบมุม มินโญเลต์ บินปัดทิ้งไปได้

นาทีที่ 85 มิดเดิ้ลสโบรช์ เกือบได้ประตูชัยในช่วงท้ายเกม กิเก้ หลอกจ่ายบอลตัดหลังแนวรับเจ้าถิ่นให้ อดัม คเลย์ตัน หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงมุมแคบ บอลพุ่งเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย

ในช่วงเวลาที่เหเลื่องลือนั้น ก็ไม่มีคณะใดทำประตูได้เพิ่ม จึงทำให้จบเกม 90 นาที กรุ๊ปลิเวอร์พูล กับ หมู่มิดเดิ้ลสโบรช์ เสมอกันไป 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที

เริ่มเกมส์มาในช่วงต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 98 เหล่าลิเวอร์พูล เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย ส่ง ซูโซ่ ลงสนามมาแทน ลาซาร์ มาร์โควิช

นาทีที่ 109 เดอะ ค็อป เฮลั่น จนกระทั่งมาได้ประตูแซงนำ 2-1 โฆเซ่ เอ็นริเก้ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย ปาดเรียดเข้ากลาง จาเมล แบล็คแมน ปัดบอลมาเข้าทาง ซูโซ่ กดด้วยขวา บอลพุ่งเรียดเสียบตาข่าย

นาทีที่ 120+3 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บของการต่อเวลาพิเศษ โคโล่ ตูเร่ ออกลูกเหวอเข้าพรวดพราดไปตัดฟาวล์ใส่ แพทริค แบมฟอร์ด ในเขตโทษผู้ตัดสินเป่าทันที ก่อนที่ แบมฟอร์ด จะลุกขึ้นมาสังหารเองไม่พลาด โบโร่ ตีเสมอเป็น 2-2

ทำให้จบเกม 120 นาที ฝ่ายลิเวอร์พูล เสมอ หมู่มิดเดิ้ลสโบรช์ 2-2 ต้องดวลจุดโทษหาผู้ชนะถัด

  1. คนที่ 1 ฝ่ายลิเวอร์พูล มาริโอ บาโลเตลลี่ ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 1 ฝ่ายมิดเดิ้ลสโบรช์ แพทริค แบมฟอร์ด ผล ไม่เข้า ติดเซฟ


  1. คนที่ 2 พวกลิเวอร์พูล ลูคัส เลวา ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 2 ทีมมิดเดิ้ลสโบรช์ อดัม เคลย์ตัน ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 3 เหล่าลิเวอร์พูล อดัม ลัลลาน่า  ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 3 กรุ๊ปมิดเดิ้ลสโบรช์ อดัม รีช ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 4 ฝ่ายลิเวอร์พูล ซูโซ่ ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 4 เหล่ามิดเดิ้ลสโบรช์ อัลเบิร์ต อโดมาห์ ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 5 เหล่าลิเวอร์พูล ราฮีม สเตอร์ลิง ผล ไม่เข้า ติดเซฟ
  2. คนที่ 5 คณะมิดเดิ้ลสโบรช์ เยลเล่ วอสเซน ผล ยิงเข้า


** (ซัดเดิ้ลเดธ)
  1. คนที่ 6 ทีมลิเวอร์พูล จอร์แดน วิลเลี่ยมส์ ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 6 ทีมมิดเดิ้ลสโบรช์ จอร์จ เฟรนด์ ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 7 กลุ่มลิเวอร์พูล โคโล่ ตูเร่ ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 7 กรุ๊ปมิดเดิ้ลสโบรช์ ดาเนี่ยล อยาล่า ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 8 หมู่ลิเวอร์พูล มามาดู ซาโก้ ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 8 กลุ่มมิดเดิ้ลสโบรช์ ไรอัน เฟรเดอริคส์ ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 9 หมู่ลิเวอร์พูล ฆาเบียร์ มานกีโย่ ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 9 หมู่มิดเดิ้ลสโบรช์ เคนเน็ธ โอเมรูโอ ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 10 คณะลิเวอร์พูล โฆเซ่ เอ็นริเก้ ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 10 พวกมิดเดิ้ลสโบรช์ ยานิค วิลด์ชุท ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 11 หมู่ลิเวอร์พูล ซิมง มินโญเลต์ ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 11 ทีมมิดเดิ้ลสโบรช์ จาเมล แบล็คแมน ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 12  ทีมลิเวอร์พูล มาริโอ บาโลเตลลี่ ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 12  หมู่มิดเดิ้ลสโบรช์ แพทริค แบมฟอร์ด ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 13 กรุ๊ปลิเวอร์พูล ลูคัส เลวา ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 13 พวกมิดเดิ้ลสโบรช์ อดัม เคลย์ตัน ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 12 พวกลิเวอร์พูล อดัม ลัลลาน่า ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 12 พวกมิดเดิ้ลสโบรช์ อดัม รีช ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 13 พวกลิเวอร์พูล ซูโซ่ ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 13 หมู่มิดเดิ้ลสโบรช์ อัลเบิร์ต อโดมาห์ ผล ไม่เข้า หลุดกรอบ


ทำให้จบเกม คณะลิเวอร์พูล เอาชนะในช่วงดวลจุดโทษ ด้วยสกอร์ยืดยาวเป็นสถิติใหม่ของฟุตบอลลีกคัพ ผลบอลพรีเมียร์ลีก 14-13 พ้นเข้าสู่รอบที่ 4 ศึกแคปิตอล วัน คัพ ได้สำเร็จ

สารบาญผู้เล่นทั้ง 2 เหล่า

พวกลิเวอร์พูล : 
  1. ซิมง มินโญเลต์ 
  2. ฆาเบียร์ มานกีโย่
  3. โคโล่ ตูเร่
  4. มามาดู ซาโก้
  5. โฆเซ่ เอ็นริเก้ 
  6. จอร์แดน รอสซิเตอร์ (จอร์แดน วิลเลี่ยมส์ น.79)
  7. ลูคัส เลวา 
  8. ลาซาร์ มาร์โควิช (ซูโซ่ น.98)
  9. อดัม ลัลลาน่า
  10. ราฮีม สเตอร์ลิง 
  11. ริคกี้ แลมเบิร์ต (มาริโอ บาโลเตลลี่ น.74)

สำรองไม่ได้ใช้ : 
  1. แบร็ด โจนส์ 
  2. มาร์ติน สเคอร์เทล
  3. อัลแบร์โต้ โมเรโน่
  4. ฟาบิโอ บอรินี่


กรุ๊ปมิดเดิ้ลสโบรช์ : 
  1. จาเมล แบล็คแมน 
  2. ไรอัน เฟรเดอริคส์
  3. เคนเน็ธ โอเมรูโอ
  4. ดาเนี่ยล อยาล่า
  5. จอร์จ เฟรนด์ 
  6. อัลเบิร์ต อโดมาห์
  7. อดัม เคลย์ตัน
  8. แกรนท์ ลีดบิทเทอร์ (แพทริค แบมฟอร์ด น.112)
  9. อดัม รีช
  10. ลี ทอมลิน (เยลเล่ วอสเซน น.112)
  11. กิเก้ (ยานิค วิลด์ชุท น.76)

สำรองไม่ได้ใช้ : 
  1. ดิมิตริออส คอนสแตนโตปูลอส 
  2. เบน กิ๊บสัน
  3. เจมส์ ฮัสแบนด์
  4. เอมิลิโอ เอ็นซูเอ้


ผู้ตัดสิน : ไมค์ โจนส์

ไฮไลท์ฟุตบอล กลุ่มลิเวอร์พูล VS ทีมมิดเดิ้ลสโบรช์

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก >>> http://footballclubpza.blogspot.com/

เนื้อหาเพราะ Sanook

วิเคราะห์บอล : รูน กล่าวโจมตีเกมรับฮวบทำพ่ายเละ



วิเคราะห์บอล : รูนจวกเกมรับยวบทำพ่ายเละ




กลายเป็นปัญหาเดิมๆ เพราะด้วย หมูรูน โดยเขาได้บ่นเกมรับของ คณะผีแดง ห่วยเกินแกง เป็นเหตุให้พ่าย พวกจิ้งจอกสยาม 3-5 พร้อมชี้เหล่าไม่สมรรถปิดเกมได้เอง ไม่โทษ เปามาร์ค

เพราะว่าที่เวย์น รูนี่ย์ ซึ่งเป็นกัปตันฝ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ออกโรงวิจารณ์เกมรับของเหล่าตัวเอง ว่าเล่นกันได้ไม่เป็นเหล่า แถมมีความผิดพลาดมากมาย เป็นเหตุให้ต้องพ่ายให้กับคณะ เลสเตอร์ ซิตี้ ไปแบบพลิกความคาดหมาย 3-5 จนถึงวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา เพราะว่าชี้อีกว่านักเตะนิ่งไม่พอ จึงไม่อาจจักปิดเกมได้สำเร็จ พร้อมไม่โทษการตัดสินของ มาร์ค คลัทเท่นเบิร์ก ที่เป่าลูกจุดโทษสุดกังขาอีกด้วย

ซึ่งทางหัวหอกเหล่าชาติฟุตบอลอังกฤษ ได้กล่าวว่า เหตุการณ์นี้มันน่าผิดหวังยิ่งๆ โดยการนำ 3-1 แล้วกลับมาพ่าย มันเป็นเรื่องที่รับได้ยาก เราควรต้องทำให้ดีกว่านี้ในฐานะการเล่นแบบเป็นเหล่า อ่านเกมให้ออกพร้อมกับเอาชนะมันด้วยตำแหน่งที่เราอยู่ เรายังมีข้อผิดพลาด ด้วยกันเราก็ไม่ได้ทำให้ดีพอในฐานะทีมในการหยุดพวกเขาทำประตู มันเป็นเกมที่เราเล่นกันได้ดีในแนวรุก ยิงประตูได้ และมีความสวยงาม แต่ก็เสียประตูจากความผิดพลาด

เขายังได้กล่าวต่อว่า เราต้องทำให้ดีกว่านี้ เรารู้อยู่แล้ว มันไม่สวยเลยครั้งคุณเสียประตูทั้งๆ ที่ทำเป็นป้องกันมันได้ ทุกๆ คนรู้ดีอยู่แล้ว พวกเขากำลังได้โมเมนตั้มกลับมาในช่วง 20 นาทีสุดท้าย พร้อมกับเราต้องพยายามทำใจให้เย็นพร้อมทั้งปิดเกมให้ได้ แต่เรากลับไม่สมรรถทำมันได้   รูนี่ย์ วิจารณ์ถึงเพื่อนร่วมคณะ

กับซึ่งในขณะเดียวกันที่ หมูรูน นั้นไม่คิดโทษการตัดสินของ คลัทเท่นเบิร์ก แม้จักมองว่าจังหวะที่ ราฟาเอล แบ็กขวาเพื่อนร่วมทัพ กระแทกเบาๆ ใส่ เจมี่ วาร์ดี้ ไม่ควรจะเป็นลูกฟาลว์แต่อย่างใด เพราะว่ากล่าวว่า 


ตัวผมนั้นไม่คิดว่ามันจักเป็นลูกจุดโทษเลย ผมคิดว่ามันรุนแรงเกินไป แต่กรรมการกาลเวลานี้ต้องเจอกับการทำงานที่ยากลำบากมาก เราเข้าใจดี มาร์ค คลัทเท่นเบิร์ก ต้องตัดสินใจในสิ่งที่เขารู้สึกว่าถูกต้อง พร้อมกับเราก็ต้องยอมรับมัน

และทั้งนี้ โปรแกรมบอลนัดหลังจากนั้นของ กลุ่มปีศาจแดง มีคิวเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ กลุ่มเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่เพิ่งเอาชนะเหล่า ลิเวอร์พูล 3-1 ไปหมาดๆ ในวันเสาร์ที่ 27 กันยายนนี้



ข่าวจาก >>> http://footballclubpza.blogspot.com/

วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2557

ข่าวฟุตบอล : แอ็กเกอร์ ปริปากลาลิเวอร์พูล เพราะว่าถกเถียงพร้อมทั้งบีร็อด

ครันไม่ก็? ภายหลังที่แอ็กเกอร์ แจงเหตุลา หงส์ เพราะว่าระบุว่าเป็นก็เพราะว่าตนมีความเห็นไม่ตรงกับ ร็อดเจอร์ส สักอย่าง ตลอดทั้งฤดูกาล

เหตุด้วยดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ ปราการหลังตัวแกร่งของ บรอนด์บี้ กรุ๊ปชื่อดังแห่งศึกฟุตบอลลีกเดนมาร์ก เอ่ยปากให้สัมภาษณ์แจงวิเคราะห์บอลถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตนเโจษจันกเก็บข้าวของอำลา ลิเวอร์พูล ทันทีที่ช่วงซัมเมอร์ที่สร้างผ่านมา โดยระบุว่ามีปัจจัยมาจากการที่ความสัมพันธ์ระหว่างตนกับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือหนุ่ม นั้นดำเนินไปได้อย่างย่ำแย่ตลอดทั้งซีซั่น ทำให้ตนไม่มีทางเฟุ้งเฟื่องกอะไรทั้งสิ้นนอกเหนือจากการต้องแยกทาง ทั้งๆ ที่ตนก็รัก หงส์แดง หมดใจ

โดยที่ดาวเตะวัย 29 ได้กล่าววิเคราะห์บอลถึงเรื่องนี้ว่า ผมขอพูดแบบนี้แล้วกันนะ ผมกับผู้จัดการคณะเรามีความเห็นกันไปคนละเรื่องเลยทีเดียวขณะตลอดทั้งฤดูกาลที่แล้ว มันมีเหตุการณ์ระหว่างเราเกิดขึ้นมากมาย พร้อมทั้งด้วยว่าผม แค่นั่นมันก็เกินพอ ผมมีความรู้สึกว่าเขาไม่ปลื้มกับทุกสิ่งที่ผมมีศักยภาพในการนำเสนอ ด้วยกันตราบผมรู้สึกแบบนั้น มันก็ถึงเวลาที่ผมจะต้องก้าวถัดจาก ผมเป็นคนที่พูดตรงๆ ผมพูดสิ่งต่างๆ ตามที่ผมเห็น ด้วยกันผมก็คาดหวังให้ทุกคนทำแบบเดียวกับผม ซึ่งบางทีการคาดหวังแบบนั้นอาจจักไม่ควร

โดยทั้งนี้ ลิเวอร์พูล ชุดปัจจุบันที่ไร้เงาของ แอ็กเกอร์ นั้นเสียไปแล้วถึง 8 ประตู จากการลงสนาม 5 นัด ในการแข่งขันของซีซั่นนี้

เนื้อหาเพราะ http://footballclubpza.blogspot.com/

วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557

สกู๊ปฟุตบอลพิเศษ วิเคราะห์บอลฝ่ายลิเวอร์พูล พร้อมด้วย ฝ่ายแมนฯยู “เราจะไม่มีวันอย่างเดินเดียวดาย”

ชมไฮไลท์พรีเมียร์ลีก เลสเตอร์ ซิตี้ 5-3 แมนฯยูไนเต็ดคลิ๊กที่นี่

ชมไฮไลท์พรีเมียร์ลีก เอฟเวอร์ตัน 2-3 คริสตัล พาเลซคลิ๊กที่นี่


==================================

มาดูสกู๊ปพิเศษ เหล่าลิเวอร์พูล - ทีมแมนฯยู 

“เราจักไม่มีวันอย่างเดินเดียวดาย”


วิเคราะห์บอล : สำหรับเกมในศึกพรีเมียร์ลีก ของอาทิตย์นี้ แฟนๆของทั้ง ยูไนเต็ด พร้อมกับ ลิเวอร์พูล คงจะเซ็งไปตามๆกัน ด้วยเหตุที่ทั้งสองหมู่ ต่างโดนคณะเล็กกว่าอัดซะเละไม่พ่ายแพ้กัน เลยกลายเป็นว่าทั้งสองหมู่ต่างก็ปราชัยเป็นเพื่อนกันซะงั้น

ซึ่งหลังจบเกมพรีเมียร์ลีก สุดอาทิตย์ นี้ มีเรื่องให้พูดถึงมากมาย ระหว่างที่เขียนการแข่งขัน ระหว่าง หมู่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ฝ่ายเชลซี  ที่กำลังโหมโรงขึ้น เราจักไม่พูดถึงเรื่องนั้นแต่ เรามาพูดถึงความพ่ายแพ้ของ คณะปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อ เลสเตอร์ ซิตี้ด้วยสกอร์ 5-3

เพราะที่ก่อนหน้าเกมนี้ จนถึงวัน เสาร์ที่ลอดมาทีม หงส์แดง ลิเวอร์พูล คู่แค้นตลอดชาติของ ทีมแมน ฯ ยูไนเต็ด ก็พลาดท่า บุกไปโดนทีม ขุนค้อน เวสต์แฮม ทุบซะเละ 3-1 ถือเป็นการพ่ายปราชัย นัดที่ 3 แล้ว ในฤดูกาลนี้ ทั้งที่เพิ่งเปิดฤดูกาลไปแค่ 5 นัดเท่านั้น


ซึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัด ๆ ในฤดูกาลนี้ของพวกฟุตบอล หงส์แดง คือ แนวรับที่อ่อนอย่างกับหยวกกล้วย โดนบอมมากๆเข้าออกอาการเป๋ ให้เห็นกันตลอด อย่างในเกมที่ พวกเขาพ่ายต่อพวก แอสตัน วิลล่า ประตูชัยของวิลล่า ก็มาจากจังหวะเตะมุม

พร้อมทั้งในเกมที่พวกเขาพ่าย ฝ่ายเวสต์แฮม ฯ แทบแค่ 10 นาทีแรกโดน ฝ่ายขุนค้อน ทะลวงไป 2 ลูก นี่เป็นจุดอ่อนของลูกกรุ๊ป เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่ยังแก้ไม่หายซักที ช่วงซื้อ-ขาย ตลาดนักเตะซัมเมอร์พวกเขา เจียด 20 ล้านปอนด์ ดึง เดยัน ลอฟเลน มาปักหลักแนวรับให้กับทีม แต่ดูเหมือนว่า ลอฟเลน ยังไม่เข้าขากับ คู่เซ็นเตอร์แบ็คของ ลิเวอร์พูล ทั้ง มามาดู ซาโก้ พร้อมทั้ง มาร์ติน สเคอร์เทล


โดยที่ในเกมรุกของพวกเขา ที่มี 1.มาริโอ บาโลเตลลี่, 2.ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นตัวชูโรงในช่วงที่ แดเนียลสเตอร์ริดจ์ บาดเจ็บ ก็ยังประสานงานกันไม่ดี กองกลางยิงแล้วเข้าไปใหญ่ ทั้ง 1.อดัม ลาลาน่า, 2.ลาร์ซ่า มาร์โควิช, 3.ฟิลิปเป้ คูตินโญ, 4.ลูคัส เลว่า, 5.เจอร์ราร์ด, 6.เฮนเดอร์สัน ก็ยังประสานงานกันได้ไม่ดี บอลไปถึงกองหน้าน้อยมาก ต้องอาศัยเจาะเข้าด้านข้างแล้วเปิดเข้ากลางมาลุ้นประตู สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่ ร็อดเจอร์ส ต้องปรับแก้ไขอย่างเร่งด่วน

พร้อมทั้งลองข้ามฝากมาดูทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกมในวัน อาทิตย์ เป็นเหมือนฝันร้ายของลูกคณะ หลุยส์ ฟาน กัล เมื่อพวกเขาทำประตูหนีห่าง พวกเลสเตอร์ ซิตี้ ไปถึงสองครั้งสองคราแต่ก็โดนลูกฝ่ายของ ไนเจล เพียร์สัน ไล่ตามตีเสมอได้สำเร็จ ก่อนที่จักเร่งเครื่องในช่วงท้ายแซงชนะ กรุ๊ปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้ผลบอล 5 - 3 ซึ่งถือเป็นชัยชนะต่อ หมู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ในรอบ 29 ปี อีกด้วย


เพราะว่าที่ไฮไลท์ที่สำคัญของเกมนี้คงหนีไม่พ้น 2 จุดโทษ ที่ มาร์ค แคล็ตเท่นเบิร์ก เป่าให้กับ กลุ่มเลสเตอร์ ซิตี้ จุดโทษแรก ราฟาเอล พลาดไปโดน เจมี่ วาร์ดี้ กระแทกแล้วฉกบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ราฟาเอล วิ่งตามไปกดเจ้าตัวล้มลงในเขตโทษแล้วโดนจุดโทษ

พร้อมด้วยหลังจากนั้นไม่นานโปรแกรมฟุตบอล แมนฯ ยูไนเต็ด โดน เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ ยิงตีเสมอ แล้วแนวรับพวกเขาก็รวนปั่นป่วน การตรึงเกมไว้เพื่อที่จะจู่โจม เหล่าเลสเตอร์ ทำได้ไม่ดี ฆวน มาต้า โดนฉกบอลไปแล้ว โดน วาร์ดี้ ลงโทษทันที

ซึ่งหลังจากโดนนำ ดูเหมือน ทีมยูไนเต็ด จักช็อกไม่หายแล้ว ทำให้หมู่ เลสเตอร์ อาสัยจังหวะสวนกลับเร็ว มาเข้าทาง วาร์ดี้ อีกครั้ง แล้ว ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์ ก็ไปเสียบสกัด วาร์ดี้ ล้มลงในกรอบเขตโทษแบล็คเก็ตต์ โดนใบแดงทันที อูยัว สังหารจุดโทษไม่พลาด เหล่าแมนฯ ยูไนเต็ด พ่ายพ่ายแพ้อีกครั้งพร้อมทั้ง ชนะ พางแค่เกมเดียว ใน 5 เกมแรกของฤดูกาลนี้

พร้อมกับสิ่งที่เห็นจากทั้ง 2 กรุ๊ป ไม่ว่าจักเป็น กรุ๊ปลิเวอร์พูล เหรอ เหล่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือการประสานงานของแข้งเก่ากับใหม่ที่ยังไม่เนียนสนิท พร้อมด้วยเกมรับที่อ่อนหลวมโดนบอมไม่นานก็เสียประตู


ซึ่งแม้ว่า ซัมเมอร์ที่เปลี่ยนมา คณะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จักใช้เงินซื้อผู้เล่นมากถึง 157.7 ล้านป. ซึ่งได้ซื้อผู้เล่นตัวดีๆเข้ามาเสริมในหมู่มากมาย แต่ก็ยังต้องการเวลาปรับจูนอีกมาก

ก็คงเป็นเช่นเดียวกับคณะดังฝั่ง เมอร์ซี่ไซด์ ที่ยังต้องการเวลาปรับจูนเข้าสมมติันของแข้งเก่าพร้อมด้วยใหม่อีกซักพัก พรีเมียร์ลีก ยังเป็นลีกที่แข็งแกร่ง ทุกทีมสามารถชนะกันได้ทุกหมู่ ความสนุกเพิ่งจักตั้งต้นต้นเท่านั้น

ถึงแม้ว่าสัปดาห์นี้ คณะแมน ฯ ยูไนเต็ด จักมีเพื่อนพ่ายแพ้ด้วยกัน อย่าง ทีมลิเวอร์พูล ก็คงต้องดูกันยาวๆ ทะเยอทะยานจักขอใช้สโลแกนที่ว่า เราจะไม่มี วันเดินเดียวดาย แต่เราจักอับอายไปด้วยกัน กับทั้งสองกรุ๊ปนี้นะครับ


==================================

ข่าวละบือ? กรุ๊ปผีแดงยัดออปชั่นส่งฟัลเกากลับสมมติว่าเกิดเดี้ยงซ้ำ

เป็นแน่แท้ใช่ไหมเปล่านะ ภายหลังที่ คณะปีศาจแดง ได้ยัดเงื่อนไขในปฏิญาณกู้ ราดาเมล ฟัลเกา ชี้สมมุติเจ็บเข่าอีกมีสิทธิ์ส่งตัวคืน คณะโมนาโก ได้ทันที

ซึ่งคณะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ตกเป็นข่าวว่ารอบรู้ยกเลิกสบถสาบานการหยิบยืมตัวของ ราดาเมล ฟัลเกา หัวหอกตัวกลั่นของฝ่ายที่กู้ตัวมาจาก อาแอส โมนาโก ในศึกลีก เอิง ฝรั่งเศส ได้อย่างไม่มีปัญหา แม้ว่ากองหน้าเหล่าชาติโคลอมเบียรายนี้ได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าอีกครั้ง ภายหลังที่เจ้าตัวเคยบาดเจ็บอย่างหนักมาแล้วที่บริเวณหัวเข่าพอฤดูกาลก่อน จนต้องพักรักษาตัวนานหลายเดือนเลยทีเดียว

เพราะจากรายงานดังกล่าวได้ระบุว่า พวกปีศาจแดง ยังค่อนข้างเป็นกังวลกับสภาพร่างกายของ เอล ติเกร ที่แม้จักทะลวงการตรวจร่างกายกับกลุ่มแพทย์ของทีมมาแล้วก็ตาม จึงส่งผลให้ เร้ด เดวิลส์ เพิ่มเงื่อนไขในการยกเลิกปฏิญาณกู้ยืมตัวของ ฟัลเกา อยู่ในสัญญาด้วย ซึ่งสมมุติกองหน้าเระบือด โคเคน ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าอีกครั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มีสิทธิ์ที่จะส่งตัว ฟัลเกา กลับต้นสังกัดที่แท้ครันอย่างทีม โมนาโก ได้ทันที

==================================

เฮียมู ไม่ติดใจแลมพ์ส หลังซัดประตูสิงห์และพอใจผลบอลเจ๊าเรือ


ทางด้านของ เดอะ สเปเชี่ยล วัน ยันว่า ไม่ติดใจดราม่า! แลมพ์ส ทะลวงตาข่ายเหล่าเก่า พวกสิงห์บลูส์ ชมสมกับเป็นมืออาชีพแล้ว พร้อมรับ พอใจแบ่งแต้มกับ ฝ่ายเรือใบสีฟ้า

ทางด้านของโชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการพวกจอมอหังการของ ฝ่ายเชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกโปรแกรมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ยืนยันว่า ตนนั้นไม่ติดใจอะไรกับการที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ดาวเตะจอมเก๋าของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยิงประตูใส่ต้นสังกัดเก่า ทีมสิงโตน้ำเงินคราม ช่วยให้ หมู่เรือใบสีฟ้า ไล่ตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จพอวันอาทิตย์ที่ข้ามมา 21 กันยายน พร้อมกับชื่นชมว่านักเตะทำหน้าที่ได้สมกับเป็นมืออาชีพอย่างแท้แน่แท้

เพราะที่ แลมพ์ส ได้ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามมาในช่วงนาทีที่ 78 ซึ่งขณะนั้นกรุ๊ป แมนฯ ซิตี้ ตามหลัง ฝ่ายเชลซี อยู่ 0-1 แต่อีกพ่าง 7 นาทีต่อมาเจ้าตัวก็มายิงประตูตีเสมอให้ เหล่าเรือใบสีฟ้า ไล่มาเป็น 1-1 อย่างไรก็ตาม มูรินโญ่ ก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับการที่นักเตะยิงประตูใส่ต้นสังกัดเก่า พร้อมกับชื่นชมในความเป็นมืออาชีพ เพราะให้สัมภาษณ์ว่า ส่วนตัวผมไม่ได้ติดใจอะไรทั้งสิ้น แลมพาร์ด เป็นผู้เล่นของ กรุ๊ปแมนฯ ซิตี้ แล้ว แม้บางทีผมจะแน่แท้จังกับเรื่องฟุตบอลไปเสียหน่อย แต่ครั้นเขาได้ตกลงใจมาเป็นคู่แข่งของ เหล่าเชลซี เรื่องของความรักมันก็ไม่เกี่ยวกันแล้ว

พร้อมกับเขายังได้พูดต่ออีกว่า แลมพ์สเขาก็ทำหน้าที่ของเขาได้ดีในฐานะเป็นมืออาชีพ ด้วยกันเขาก็ยิงประตูได้ ที่นี่คือ อังกฤษ ด้วยกันนี่คือกรุ๊ป เชลซี แต่แฟน ทีมเชลซี ไม่เคยลืมเลยว่าเขาได้ทำอะไรไว้ให้กับสโมสรแห่งนี้บ้าง พร้อมทั้งมันก็เคยเกิดขึ้นกับผมมาแล้วตอนที่ผมเจอกับ คณะเชลซี ในฐานะกุนซือของ ทีมอินเตอร์ มิลาน พร้อมด้วยครั้งนี้มันก็เกิดขึ้นกับ แลมพ์ส

ซึ่งพร้อมกันนี้ทาง เดอะ สเปเชี่ยล วัน ยังรู้สึกพอใจกับผลบอลที่ออกมาเสมอ 1-1 กับ ทีมแมนฯ ซิตี้ พร้อมกับแบ่งกันไปเหล่าละแต้ม โดยได้กล่าวว่า มันเป็นเกมใหญ่ พร้อมทั้งผมคิดว่าบางที่การจบลงที่ 1-1 มันก็เป็นผลที่แฟร์สุดแล้ว

==================================

สื่อออกมาแฉ! พวกผีนำ2ลูกปราชัยคู่แข่งครั้งแรกในศึกพรีเมียร์ลีก


ทางด้านหลุยส์ ฟาน กัล กุมขมับ สื่อผู้ดีขุดสถิติแฉ หลังเกมพ่าย กรุ๊ปจิ้งจอกสยาม 3-5 ชี้ พวกปีศาจแดง พ่ายคู่แข่ง ทั้งที่เป็นฝ่ายนำอยู่ 2 ลูก ครั้งแรกในพระราชพงศาวดารศาสตร์นับตั้งแต่มีการก่อตั้ง พรีเมียร์ลีก

ซึ่งหลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการเหล่าเก้าอี้ร้อนของสโมสรฟุตบอล ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกดังจากศึก พรีเมียร์ลีก สร้างสถิติที่ไม่ปรารถนาจดจำขึ้นมาอีกครั้ง หลังเกมที่พวกเขาบุกไปพ่ายต่อ กรุ๊ปเลสเตอร์ ซิตี้ 3-5 ครั้งคืนวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายนที่เปลี่ยนมา เมื่อสื่อของเมือง ผู้ดี แฉว่า นี่ถือเป็นครั้งแรกในชีวประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก ที่ คณะปีศาจแดง พ่ายต่อคู่แข่ง ทั้งที่พวกเขาเป็นฝ่ายนำก่อนถึง 2 ประตู

พร้อมทั้งทางสื่อโปรแกรมบอลดังกล่าวยังได้เปิดปูดว่า นับตั้งแต่ที่พรีเมียร์ลีก เปิดฝาก่อตั้งมาจนกระทั่งปี 1992 ทัพ คณะปีศาจแดง ยิงประตูนำคู่แข่ง 2 ลูกไปทั้งหมด 375 หน ซึ่งผลจบลงด้วยชัยชนะของ เหล่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 363 ครั้ง เสมอ 11 ครั้ง ด้วยกันเพิ่งจะปราชัยแค่ครั้งเดียว นั่นคือแพ้ให้กับ ทัพ ทีมจิ้งจอกสยาม ในเกมล่าสุด

เพราะว่านอกจากนี้ยังมีการเปิดเปรยการวิเคราะห์บอลพรุ่งนี้สถิติอีกหลายรายการ ที่เกิดขึ้นในเกมดังกล่าว เช่น ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมใน พรีเมียร์ลีก ที่เสียจุดโทษให้กับคู่แข่งมากครั้งที่สุด ตลอดปี 2014 (6 ครั้ง เท่ากับ กรุ๊ปท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์), คณะเลสเตอร์ ซิตี้ เป็นกลุ่มที่ 6 ที่พังตาข่าย พวกปีศาจแดง ได้ 5 ประตูขึ้นไปในเกม พรีเมียร์ลีก ต่อจาก พวกนิวคาสเซิ่ล, คณะเซาธ์แฮมป์ตัน, ทีมเชลซี, พวกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ กลุ่มเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน

==================================

ทางด้านบาโลได้โพสต์เรียกแขก!

หลังเจอเดนคนรุมเหยียดสีผิว

หลังจากที่ บาโล ได้เจอดีถูกเกรียนคีย์บอร์ดโพสต์เหยียดผิวในทวิตเตอร์ หลังเจ้าตัวโพสต์เย้ย ทีมปีศาจแดง ที่พ่าย กรุ๊ปจิ้งจอกสยาม 3-5 ด้านตำรวจเตรียมหาหลักฐานดำเนินคดี

เพราะภายหลังที่ มาริโอ บาโลเตลลี่ กองหน้าฟุตบอลสติเฟื่องของ กลุ่มลิเวอร์พูล สโมสรขวัญใจมหาชนแห่งเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เจอดีเข้าให้แล้วทันทีที่ถูกแฟนบอลรายหนึ่งเหยียดผิวใส่สร้างผ่านทางทวิตเตอร์ หลังจากที่กองหน้าหมู่ชาติอิตาลี โพสต์ข้อความในทำนองเย้ยหยันความพ่ายพ่ายแพ้ของ คณะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่บุกไปพ่ายสโมสรน้องใหม่อย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ 3-5 ขณะวันที่ 21 กันยายนที่เปลี่ยนมา

ซึ่ง เกรียนโอ้ ยังคงสร้างวีรกรรม เกรียน อย่างต่อเนื่อง เพราะภายหลังที่คู่ปรับตลอดกาลอย่าง กรุ๊ปปีศาจแดง บุกไปพ่าย กรุ๊ปจิ้งจอกสยาม 3-5 บาโลเตลลี่ ได้โพสต์ข้อความเชิงหัวเราะเยาะเย้ยผลงานของทัพ เร้ด เดวิลส์ ก่อนจักมีบรรดาแฟนบอลเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมายถึง 150,000 ข้อความ พร้อมทั้งมีหลายข้อความที่เป็นการเหยียดผิวโดยตรงใส่หัวหอกเชื้อสายกาน่ารายนี้ด้วย

กับล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองเมอร์ซี่ไซด์ ได้เตรียมหาหลักฐานเพื่อมาลงโทษแฟนบอลนิสัยเสียกลุ่มดังกล่าวให้เร็วที่สุด แม้ว่าบัญชีสารบาญของผู้ก่อเหตุจะถูกลบทิ้งไปแล้วก็ตาม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรอรายงานจากผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินคดีนำผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้

วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2557

วิเคราะห์ผลบอล UFA ตักเตือนจะเสียกำลังใจกันเหรอวาก?



หลังจากที่บรรดาเหล่าจากศึกโปรแกรมพรีเมียร์ลีก ออกสตาร์ตนัดแรกในถ้วยใหญ่ของยุโรปแบบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ค่อนข้างกระท่อนกระแท่นกันถ้วนหน้า

มาวิเคราะห์บอล ขึ้นต้นแรกที่กลุ่ม ลิเวอร์พูลนั้นต้องทะลุทะลวงโปรแกรมบอลเหนื่อยแบบขาดใจในบ้านตัวเองกว่าจะเก็บ 3 แต้มล้ำค่าได้ต้องใช้ช่วงเวลาทดเจ็บมารักษาหน้า ในขณะที่เชลซีได้เท่าแค่แบ่งแต้ม แม้ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรมากมาย แต่ถ้วยยุโรปเกมในบ้านเพื่อความชัวร์ต้อง 3 แต้มเอาไว้ก่อน

ตามมาด้วยหมู่อาร์เซนอล กับ ฝ่ายแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงกับไม่มีแต้มติดมือ 2 กลุ่มดังจากพรีเมียร์ลีก ออกนอกบ้านไปเสียท่าให้กับยอดพวกของบุนเดสลีกาอย่าง ทีมดอร์ทมุนด์ ด้วยกัน เหล่าบาเยิร์น มิวนิค



เรียกได้ว่าตารางบอล หายนะกันเหรอเปล่า ไม่ถึงขนาดนั้นแน่นอน ดูกนด้วยความเป็นธรรมมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว อาร์เซนอลไปเยือนดอร์ทมุนด์ได้สักแต้มก็พอใจแล้ว แต่ถึงขั้นพ่ายมันก็อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง

เนื่องด้วยกรุ๊ปแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปเยือน หมู่บาเยิร์น มิวนิค ได้สักแต้มก็โอเคเช่นกัน ทว่ากลับบ้านมือเปล่าก็อยู่บนพื้นฐานของความเป็นแน่นอน

ทางด้านของเหล่าลิเวอร์พูลควรจะดูสบายๆมากกว่าใครเกือบเอาตัวไม่รอด ดูจากฟอร์มก็ไม่ถึงกับเซอร์ไพรส์ ผลงานของกลุ่มเชลซีน่าเสียดายหน่อย ฟอร์มกำลังแรงความมั่นใจกำลังสุดขีด เล่นในบ้านคาดหวังกันเต็มที่

ซึ่งไม่ง่ายอยู่แล้วกับการเจอกรุ๊ปยักษ์ใหญ่ของบุนเดสลีกา หมู่อาร์เซนอลหวังสร้างโอกาสส่องประตู เหล่าดอร์ทมุนด์ได้น้อยมาก ยิงเข้ากรอบแค่ครั้งเดียว



ทางด้านทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่แตกต่างเท่าไหร่ในเรื่องนี้ ซึ่งสร้างโอกาสในการยิงเข้ากรอบแค่ 2 ครั้ง แต่รูปเกมของคณะเรือใบอาจจะดูมั่นคงกว่า คณะอาร์เซนอล

เพราะจากประสบการณ์ด้านลบ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นรอบรู้เป็นบทเรียนที่ดีได้ พร้อมกับการพัฒนาตัวเองจักเกิดขึ้น อาร์เซนอลเสียประตูในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรกเป็นจุดเปลี่ยนของเกมไปเลย ฝ่ายเรือใบสีฟ้าเสียประตูนาทีสุดท้ายหมดโอกาสที่จะกลับตัวกลับใจได้อีก

ซึ่งเรื่องราวแบบนี้ถ้าเรียนรู้และเป็นประสบการณ์ที่ได้รับการพัฒนามันเป็นได้ยกระดับตัวเองได้ มองไปที่ประเด็นผลบอลของกลุ่มแมนเชสเตอร์ ซิตี้

ด้วยกันคณะไม่ศักยที่จะชะลอการพัฒนาตัวเองในถ้วยยุโรปได้ 3-4 ปีที่ลอดมาได้รับรู้กันแล้วว่าในถ้วยนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายด้วยกันประสบการณ์คือเรื่องใหญ่



ฝ่ายฟุตบอลแมนซิตี้มีเกมที่แพ้ในถ้วยนี้มากมายอย่างยิ่ง รวมเกมที่เพิ่งพ่ายให้กับเสือใต้น่าจะมีเกมที่พ่ายมากกว่าเกมที่ชนะ แน่นอนว่า ทีมเรือใบมีนักเตะทีมชาติต่าง ๆ มากมายซึ่งคณะใหญ่ทีมอื่นมีเหมือนกัน

เช่นแต่ว่าประเด็นที่แตกต่างก็คือมีนักเตะเรือใบน้อยมากที่เล่นในถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีกในรอบลึก ๆ ระดับรอบรองชนะเลิศหรือนัดชิงชนะเลิศ

ซึ่งในหลายช่วงเวลา หลายสถานการณ์หลังจากข้ามเรื่องราวนั้นไป บ่อยครั้งมากที่เรามักจะพูดถึงประสบการณ์ จักว่าไปแล้วมันเกี่ยวข้องยิ่งๆ

เพราะด้วยสถานการณ์การแข่งขันฟุตบอลที่กดดันสุดๆ ช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับสิ่งที่ต้องใช้ความนิ่ง มีสมาธิเข้าช่วย ประสบการณ์ของคณะ ประสบการณ์นักเตะแต่ละคนมีผลเป็นแน่แท้ๆ

และอีกประเด็นหนึ่งซึ่งตอกย้ำพร้อมด้วยยืนยันกันอีกครั้งมาตรฐานของเหล่าขากบุนเดสลีกาไม่ธรรมดา ยกระดับขึ้นเรื่อยๆนอกจากทีมบาเยิร์น มิวนิค กับ พวกดอร์ทมุนด์ ที่เหเลื่องลือชื่ออาจจะไม่ถึงกับหวือหวา ทว่ามาตรฐานอยู่ในขั้นดีทั้งนั้น

เพราะในระดับคณะชาติฟุตบอล ฝ่ายเยอรมัน มาตรฐานสูงมากๆ ซึ่งรากฐานก็มาจากการจัดการระดับสโมสร อย่าว่าแต่ระดับสโมสรต้องมองมาตรฐานด้วยกันรากฐานของเหล่าจากบุนเดสลีกาเลย ระดับชาติก็ยังต้องดูเป็นตัวอย่าง

นักเตะอย่าง แวงซ็องต์ กอมปานี กัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่าเรือใบพร้อมที่จักไปให้ถึงการรับถ้วยแชมป์ ทว่าทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ

เพราะด้วยการพ่ายให้กับเหล่าบาเยิร์น มิวนิค บ่งอื้นว่าทุกอย่างของเรือใบยังไม่ถึงระดับนั้น อย่างไรก็ตามเป็นพ่างแค่เกมนัดแรกยังมีเรื่องราว รวมทั้งเกมที่จักทำให้เปลี่ยนอุปสรรคเข้าไปสู่รอบน็อกเอาท์อีกบานเบอะ

พร้อมด้วยในเรื่องนี้ ทุกกลุ่มต่างมองเห็นข้อด้อยของตัวเอง ซึ่งต้องแก้ไขกันไป แต่ละก้าวแต่ละนัดอาจจะเรียนรู้พร้อมกับยกระดับตัวเองได้เสมอ ใครจะทำได้ดีกว่ากันเท่านั้นเอง

วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557

วิเคราะห์บอลพี่มูรินโญ่ย้ำชัด ว่าจักไม่ใช้คอสต้าถึง 3นัดต่ออาทิตย์แม่นมั่น



ผมก็เป็นคนเหมือนกันนะ! จนถึงน้ามู วิเคราะห์บอลยืนยันว่า จักไม่ใช้งาน คอสต้าถึง 3 นัดต่อสัปดาห์อย่างแน่นอน เหตุนักเตะเพิ่งทะลุทะลวงเกมเหล่าชาติมาหมาดๆ หลังเป็นสำรองนัดเจ๊าทีม ราชันสีน้ำเงิน ผลบอลเสมอ 1 - 1

ซึ่งทางด้านของโค๊ช โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งเป็นผู้จัดการหมู่ฟุตบอลเชลซี ยักษ์ใหญ่แห่งศึกตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษออกโรงยืนยันว่าเขาจะไม่ใช้งาน ดีเอโก้ คอสต้า ศูนย์หน้าคนสำคัญลงสนาม 3 เกมต่ออาทิตย์อย่างแน่นอน ตามที่เจ้าตัวยังไม่ได้ฟิตสมบูรณ์พอจากโปรแกรมบอลฝ่ายชาติ หลังหอกคนสำคัญตกเป็นแค่สำรองในการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดแรกที่เสมอกับหมู่ ชาลเก้ 04 อย่างน่าผิดหวังไป 1 - 1 ครั้งวันพุธที่ 17 กันยายน ที่ตัดผ่านมา

เพราะที่กุนซือวัยใน 51 ปี ได้กล่าวว่า ภายหลังที่เขาไปเล่นกลุ่มชาติด้วยสภาพที่สมบูรณ์ แต่กลับมาด้วยอาการบาดเจ็บ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับ ดีเอโก้ มันก็เกิดขึ้นกับผู้เล่นพวกชาติทุกๆ คน ผมไม่มีอะไรจะพูดถึงมัน มันเกิดขึ้นแล้ว เขาเล่นได้หนึ่งเกม พร้อมทั้งมันสุดเพอร์เฟ็กต์ แต่หลังจากกลับมาจากเหล่าชาติเขาก็บาดเจ็บ สัปดาห์หน้าที่เจอกับ โบลตัน (แคปิตอล วัน คัพ) แน่นอนว่าเขาจักไม่ได้ลงเล่น เขาจะได้ลงสลับกันไปแบบนี้

พร้อมกับเขายังกล่าวต่ออีกว่า คอสต้านั้น มีปัญหา เขาไม่อาจลงเล่นได้ใน 3 เกมต่ออาทิตย์ ถ้าเขามีเวลาอาทิตย์เดียวให้ฟื้นฟูกล้ามเนื้อ เขาอาจตั้งต้นใหม่ได้อีกครั้งเหมือนกับที่เขาทำ แต่ในเวลา 3 วัน ภายหลังวันเสาร์ที่ข้ามมา มันไม่พอ มันไม่ทำได้ทำให้เขาเพอร์เฟ็กต์ได้ในวันอาทิตย์ที่จักถึง วันนี้ เขายังไม่สมบูรณ์พอที่จักได้ลงเล่นหลังทะลวงเกมวันเสาร์มา นายใหญ่ชาวโปรตุเกส ร่ายยาว

วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557

UFA วิเคราะห์บอลศึก ฟุตบอลยูฟ่า แชเปี้ยนลีก เหล่าบาเยิร์น มิวนิค VS ทีมแมนฯ ซิตี้


  • แข่งฟุตบอลกลุ่มอี
  • 1.บาเยิร์น มิวนิค VS 2.แมนเชสเตอร์ ซิตี้
  • แข่งวัน: พุธที่ 17 กันยายน 2557
  •  เวลาแข่ง: 01.45 นาฬิกา
  • สนามแข่ง : อัลลิอานซ์ อารีน่า
  • กรรมการผู้ตัดสิน: อัลเบร์โต้ มาเญนโก้ ประเทศสเปน
  • สภาพอากาศ : 15-18 °C, มีเมฆบางส่วน
  • ช่องถ่ายทอดสด :  TrueSport 1

ด้วยว่าโปรแกรมบอลผลการพบกัน 2 นัดหลังสุด ท้าย

  1. วันที่ 10-12-2013 UFA กรุ๊ปบาเยิร์น 2 – 3  กรุ๊ปแมนฯ ซิตี้
  2. วันที่  2-10-2013  UFA พวกแมนฯ ซิตี้ 1 – 3 พวกบาเยิร์น

ตารางบอลผลงาน 5 นัดหลังสุด
ฝ่ายบาเยิร์น

  1. วันที่ 13-9-2014 ผล ชนะ หมู่สตุ๊ตการ์ท ผลบอล 2-0 (เป็นกรุ๊ปเหย้า)
  2. วันที่ 30-8-2014 ผล เสมอ พวกชาลเก้ ผลบอล 1-1 (เป็นพวกเยือน)
  3. วันที่ 22-8-2014 ผล ชนะ พวกโวล์ฟสบวร์ก  ผลบอล 2-1 (เป็นกรุ๊ปเหย้า)
  4. วันที่ 17-8-2014 ผล ชนะ เหล่าพรอยส์เซ่น ผลบอล 4-1 (เป็นเหล่าเยือน)
  5. วันที่ 13-8-2014 ผล แพ้ ทีมดอร์ทมุนด์ ผล บอล 0-2 (เป็นฝ่ายเยือน)

หมู่แมนฯ ซิตี้

  1. วันที่ 13-9-2014 ผล เสมอ เหล่าอาร์เซนอล ผลบอล 2-2 (เป็นหมู่เยือน)
  2. วันที่ 30-8-2014 ผล พ่ายแพ้ ฝ่ายสโต๊ค  ผลบอล 0-1 (เป็นเหล่าเหย้า)
  3. วันที่ 25-8-2014 ผล ชนะ ทีมลิเวอร์พูล  ผล บอล 3-1 (เป็นเหล่าเหย้า)
  4. วันที่ 17-8-2014 ผล ชนะ หมู่นิวคาสเซิล  ผลบอล 2-0 (เป็นหมู่เยือน)
  5. วันที่ 10-8-2014 ผล ปราชัย คณะอา ร์เซนอล ผลบอล 0-3 (เป็นกลุ่มกลาง)

วิเคราะห์บอลความพร้อม พร้อมกับ สภาพ ของคณะ
พวกบาเยิร์น

  • ทางด้านอาร์เยน ร็อบเบนส่อฟิตไม่ทัน
  • ในนัดนี้ ฟร็องค์ ริเบรี่ได้คัมแบ็กกลับมาลากเลื้อยได้แล้ว
  • ทางด้านดาวิด อลาบาคงจักถูกขยับมาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางคู่ชาบี้ อลอนโซ่
  • เพราะ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์
  • ฆาบี้ มาร์ติเนซ
  • ติอาโก้ อัลคันทา นั้นก็ยังเจ็บอยู่
  • แนวรับนั้นเสีย โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ ไปในนัดที่แล้ว
  • ด้วยกันทางด้านราฟินญ่ายังไม่ฟิต

หมู่แมนฯ ซิตี้

  • ทางด้านปาโบล ซาบาเลต้ามีโทษแบนติดตัวมา
  • พร้อมด้วยบาการี ซานญ่าน่าจะได้ยืนแบ็กขวาแทน
  • ส่วนในแดนกลาง แฟร์นานโด ส่อฟิตไม่ทัน
  • แต่ว่า ยายา ตูเร่ ที่ถูกพักไว้ในเกมลีก พร้อมกลับมาเป็นตัวหลักได้
  • ทางด้าน เอดิน เชโก้ นั้นมีลุ้นยืนในแนวรุกแทน เซร์จิโอ อกูเอโร่
  • ในส่วนของ สเตวาน โยเวทิช นั้นยังเจ็บ

บัญชีรายชื่อนักเตะโดนแบน: ปาโบล ซาบาเลต้า

วิเคราะห์ฟุตบอลรูปเกม
ตราบสองเหล่ายักษ์ใหญ่โคจรมาพบกันตั้งแต่นัดแรก พร้อมทั้งคงไม่มีใครใคร่พลาดท่าก่อนแน่ กลุ่มบาเยิร์นที่ฟอร์มยังไม่แรงในการออกสตาร์ทซีซั่นนี้พร้อมกับมีปัญหานักเตะเจ็บเยอะ คงต้องเน้นเต็มที่เพื่อสยบ คณะแมนฯ ซิตี้ที่ผลงานยังไม่นิ่งลงให้ได้ แต่เรือใบก็น่าจักมีทีเด็ดพอที่จะบุกมาลุ้นแย่งแต้มออกจากถ้ำเสือใต้ได้

สารบาญผู้เล่น 11 คน แรกที่คาดว่าจะได้ลง

คณะบาเยิร์น 4-3-3 : 

  • 1.มานูเอล นอยเออร์
  • 21.ฟิลิปป์ ลาห์ม
  • 17.เจอโรม บัวเต็ง
  • 4.ดันเต้
  • 18.ฆวน เบรนาท
  • 3.ชาบี้ อลอนโซ่
  • 27.ดาวิด อลาบา
  • 25.โธมัส มุลเลอร์
  • 19.มาริโอ เกิทเซ่
  • 7.ฟร็องค์ ริเบรี่
  • 9.โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

ชื่อผู้จัดการคณะ : เป๊ป กวาร์ดิโอ ลา


เหล่าแมนฯ ซิตี้ 4-2-3-1 : 

  • 1.โจ ฮาร์ท
  • 3.บาการี ซานญ่า
  • 4.แว็งซองต์ กอมปานี
  • 26.มาร์ติน เดมิเคลิส
  • 11.อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ
  • 25.แฟร์นานดินโญ่
  • 42.ยายา ตูเร
  • 8.ซาเมียร์ นาสรี่
  • 21.ดาวิด ซิลา
  • 7.เจมส์ มิลเนอร์
  • 10.เอดิน เชโก้

ชื่อผู้จัดการกรุ๊ป : มานูเอล เป เญกรินี่


ฮอตสกอร์ที่คาดว่าจักเกิด : ผลเสมอ 1-1
เกร็ดที่น่า รู้

  1. โดยนัดนี้ทั้งสองทีมพบกันในรอบแบ่งกลุ่มแชมเ ปี้ยนส์ลีกเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 4 ชันษา เพราะว่ามีสถิติชนะ 2 จำนน 2 เท่ากันใน 2 ครั้งก่อน
  2. กลุ่มบาเยิร์นพ่ายแพ้แค่ 3 จาก 20 นัดที่พบ กับกลุ่มจากอังกฤษในบ้าน ชนะ 11 เสมอ 6 พ่ายแพ้ 3